วันจันทร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2559

"คัง แกรี่" ยืนยันการถอนตัวออกจากรายการ Running Man

     คัง แกรี่ หนึ่งในสมาชิกรายการวาไรตี้ยอดฮิตจากเกาหลี "รันนิ่งแมน" ได้ยืนยันการถอนตัวออกจากรายการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว



     โดยแหล่งข่าวระบุว่าการถอนตัวออกจากรายการรันนิ่งแมนของแกรี่คือเจ้าตัวต้องการทุ่มเวลาให้กับการทำเพลง โดยโปรดิวเซอร์ของรายการได้ออกมาระบุว่า "แกรี่ได้บอกถึงความต้องการของเขาที่อยากจะไปโฟกัสที่เรื่องการศึกษาทางด้านดนตรี และยังบอกอีกว่าเขาอยากทุ่มเทเวลาให้กับงานเพลงมากกว่าที่ทำอยู่ ทั้งนี้ทุกคนจึงเคารพกับการตัดสินใจของแกรี่ เราทุกคนประทับใจในตัวของแกรี่ที่ทุ่ทเททำงานอย่างหนักในฐานะสมาชิกหลักของรันนิ่งแมน"

บอกเลยว่าแฟนๆต่างก็เสียดายไปตามๆกันที่ต่อจากนี้จะไม่มี "คัง แกรี่" คอยโลดแล่นอยู่ในรายการรันนิ่งแมนเหมือนอย่างที่เคย ซึ่งตอลดระยะเวลา 7 ปีที่ผ่านมา แกรี่ ได้สร้างเสียงหัวเราะ ความสนุกสนาน และความประทำใจให้กับแฟนๆที่คอยติดตามพวกเขาอย่างไม่หยุดหย่อน


โดยบุคคลิกของแกรี่นั้นเป็นคนที่สนุกสนานร่าเริง ยิ่งเวลาที่เขารวมตัวอยู่กับสมาชิกอีก 6 คนจะสามารถสร้างเสียงหัวเราะให้กับคนดูได้ง่ายอย่างไม่น่าเชื่อ เรื่องบางเรื่องที่เขาแค่พยายามที่จะเล่าให้ผู้ชมฟังแล้วมีสมาชิกคนอื่นเข้ามาขัด หรือทำให้เรื่องมันใหญ่กว่าเดิมก็สามารถสร้างเสียงหัวเราให้กับคนดูอย่างน่าประทับใจ


คู่รักวันจันทร์ แกรี่จีฮโย

วันเสาร์ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2559

ของกินข้างถนนที่ต้องลอง เมื่อคุณไปเที่ยวเกาหลี street food korea

     หลายๆคนที่ไปเที่ยวเกาหลีก็เป็นที่แน่นอนอยู่แล้วว่าจะต้องไปเดือนช้อปปิ้งตามตลาดหรือย่านช้อปปิ้งที่ได้รับความนิยม ซึ่งตามสถานที่ช้อปปิ้งต่างๆมากมายที่เราไปเดินกันเนี่ย ก็จะมีสินค้ามากมายหลากหลายที่เราไม่เคยเห็นหรือพบเจอในประเทศไทยบ้านเรา ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า เครื่องสำอาง เครื่องประดับ โน่นนั่นนี่ก็ว่ากันไป ซึ่งมันเป็นที่แน่นอนอยู่แล้วว่าต่างที่ต่างถิ่นข้าวของเครื่องใช้ก็ต้องไม่เหมือนกันอยู่แล้วซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา อยากได้อยากใช้ก็จัดการจ่ายตังและซื้อกลับมาก็สมดังที่ตั้งใจ แต่นอกจากข้าวของเครื่องใช้พวกนี้แล้วมันก็ยังมีของจำพวกอาหารต่างๆที่เราไม่สามารถหากินได้ตามข้างถนนแถวบ้านเราได้อย่างแน่นอน ซึ่งอาหารข้างถนนตามแหล่งช้อปปิ้งนี่ก็สีสัน รูปร่างหน้าตา น่ากินอย่าบอกใคร แต่วันนี้เราจะเอามาบอกแชร์กันเกี่ยวกับของกินข้างถนนที่ต้องลอง เมื่อคุณไปเที่ยวเกาหลี

ต๊อกโบกี Tteokbokki
แป้งนิ่มๆที่ปั้นเป็นเส้นมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 2 เซนติเมตรแล้วตัดเป็นชิ้นพอดีคำแล้วราดด้วยซอสเกาหลีที่ชื่อโคชูจังที่มีรสชาดเผ็ดออกหวาน

ขนมปังอุนจิ – Poo bread
เป็นแป้งรูปร่างหน้าตาอย่างที่เป้น ข้างในเป็นไส้ถั่วแดง และเกาลัด ทำสดใหม่จากเตาตลอดเวลาได้กันกันแบบร้อนๆ ราคาชิ้นละ 1000 วอน

เครันปัง ขนมปังไข่
ขนมปังอยู่ด้านล่าง ด้านบนจะเป็นไข่คล้ายไข่ดาวบ้านเรา แต่ละร้านอาจจะมีส่วนผสมที่แตกต่างกันออกไป 1 ชิ้นพอดีคำราคาชิ้นละ 500 วอน

พุงออปัง ขนมปังปลาไส้ถั่วแดง 
ขนมไส้ถั่วแดงรูปร่างปลาตะเพียน นิยมทานกันมากเวลาเดินช้อปปิ้งข้างถนน ยิ่งในฤดูหนาวการได้เดินช้อปปิ้งพร้อมกันถือขนมพุงออปังที่พึ่งออกจากเตานี่บอกเลยว่าฟิน

ออมุก Ehmook
ปลาบดทําจากเนื้อปลาแท้ๆ ผสมด้วยผักสับละเอียดและแป้ง ปั้นเป็นก้อนเสียบไม้แล้วนําลงทอดหรือต้ม ลูกค้าต้องต่อแถวเพื่อจะได้หน้าร้านเพื่อซื้อออมุกที่ทำสดๆ นอกจากปลาบดแล้วก็สามารถนําอย่างอื่นมาเสียบไม้ได้อย่างฮอตด็อกหรือไก่ย่างซ้อสเผ็ดหวานก็เป็นที่นิยม

     นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้นของอาหารที่หากินได้ตามข้างถนนของเกาหลี ถ้าได้ไปเที่ยวเกาหลีตอนไหนก็อย่าลืมลองซื้อกินกันดูแล้วอร่อยไม่อร่อยยังไงก็ลองมาแชร์กันได้นะจ๊ะ

วันอาทิตย์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2559

มาดูกันว่าส่วนใหญ่แล้วคนเกาหลีเขาอยู่บ้านแบบไหน ราคาเท่าไหร่

     กว่า 80% ของคนเกาหลีจะอาศัยอยู่ที่อพาร์ทเม้นหรือคอนโดนสูงๆ เราจะเห็นได้ว่าที่เกาหลีมีคอนโดและอพาร์ทเม้นเต็มไปหมด แต่ไม่ใช่อยู่อพาร์ทเม้นหรือคอนโดแล้วจะเหมือนกับที่บ้านเรานะ ที่เกาหลีขนาดความกว้างของอพาร์ทเม้นจะมีความกว้างพอๆกับคอนโดบ้านเราเลย ที่เกาหลีคอนโดเริ่มต้นที่ 50-60 ตารางเมตร บ้านเราเริ่มต้นที่ 20 ตารางเมตร



ขนาดดารานักแสดงที่มีชื่อเสียงส่วนใหญ่ก็ยังอยู่คอนโด อย่างที่เราเห็นในรายการต่างๆที่ไปเยี่ยมบ้านดาราหรือไอดอล ก็จะเห็นว่าเขาเหล่านั้นจะอยู่กันในคอนโดซึ่งมันเป็นที่อยู่อาศัยส่วนมากของคนเกาหลีนั่นเอง แต่ราคาก็จะแตกต่างกันไปตามขนาดและย่านที่ตั้งนั่นเอง

     ซึ่งการอยู่คอนโดหรืออพาร์ทเม้นของคนเกาหลีนี้ไม่ใช่ว่าเขาจะเป็นเจ้าของทั้งหมดไปซะทีเดียว คนที่มีเงินก็จะซื้อและโอนที่อยู่นี้เป็นชื่อของตนเอง ส่วนคนที่ไม่ค่อยมีตังหรือเจ้าของอพาร์ทเม้นหรือคอนโดไม่ขายก็จะเข้าอยู่อาศัยแบบเช่าเอานั่นเอง ซึ่งการเช่าอยู่นั้นสามารถเช่าได้ 2 แบบคือ

1. เช่าอยู่แบบจ่ายเงินประกัน

ถ้าเช่าอยู่ในย่านที่คึกคักหน่อยหรือเป็นย่านธุรกิจก็จะต้องจ่ายค่ามัจจำและค่าเช่ารายเดือนเหมือนการเช่าอยู่ในบ้านเรา แต่ราคาจะต่างกันที่ค่ามัจจำนั่นเอง ที่เกาหลีค่ามัจจำจะอยู่ที่ประมาณ 50 ล้านวอน หรือ 1,500,000 บาท(ถ้าบ้านเราค่ามัจจำประมาณค่าเช่า 2-3เดือนเท่านั้น) ส่วนค่าเช่าจะอยู่ที่ประมาณ 1,000,000 วอน หรือ 30,000 บาท (คอนโดบ้านเราก็จะประมาณนี้) นี่คือราคาค่าเช่าโดยประมาณของที่อยู่ 100 ตารางเมตรในย่านคนพลุกพล่านหรือย่านธุรกิจ

2. เช่าอยู่แบบจ่ายเงินก้อนใหญ่

การเช่าอยู่ในลักษณะนี้ผู้เช่าจะต้องจ่ายเงิน 20-30% ของราคาอพาร์ทเม้นหรือคอนโด ซึ่งราคาก็แล้วแต่จะตกลงกับเจ้าของอีกที แต่เรทราคาส่วนใหญ่จะอยู่ท่ที่ประมาณนี้ เราจ่ายเงินก้อนไปแล้วเราก็สามารถอยู่ได้ตามกำหนดเวลาที่เราทำสัญญากันไว้ จะสองหรือสามปีก็ว่ากันไป(ขั้นต่ำ 2 ปี) แต่หลังจากที่อยู่ครบสัญญาเราจะได้เงินคืนทุกบาททุกสตางค์ พูดแล้วเหมือนอยู่ฟรียังไงไม่รู้แต่สิ่งที่เจ้าของที่อยู่นั้นได้ก็คือ การเอาเงินก้อนที่เราจ่ายไปฝากธนาคารหรือลงทุนกินกำไรนั่นเอง

คอนโดที่เกาหลี





อพาร์ทเม้นที่เกาหลี





เช่ารถขับที่เกาหลี
วิธีเดินทางจากสนามบินอินชอนเข้ากรุงโซล
รู้หรือไม่เที่ยวเกาหลีไม่ต้องอขวีซ่า เพราะอะไร ?

วันจันทร์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2559

โซลทาวเวอร์ ไปเกาหลีไม่ไปโซลทาวเวอร์คือไปไม่ถึงเกาหลี

     ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมโซลทาวเวอร์ถึงได้เป็นที่นิยมสำหรับนักท่องเที่ยวมากนัก ในการไปเที่ยวเกาหลีแล้วจะต้องไปเยี่มชมโซลทาวเวอร์เพื่อคล้องกุญแจตามคอนเซปที่ทำกันมาอย่างต่อเนื่อง จนกุญแจแถวนั้นนี่แบบว่า ขายดีเป็นเทน้ำเทท่ากันเลยทีเดียว


ข้อมูลสำคัญ
โซลทาวเวอร์ตั้งอยู่บนเขานัมซาน ซึ่งเป็นหอคอยที่มีความสูง จากฐาน ประมาณ 236.7 เมตร ถูกสร้างขึ้นในปี 1969 และเปิดให้เข้าชมเมื่อ ปี 1980 ถือเป็นจุดสำคัญและเป็นสัญลักษ์ของกรุงโซล เพราะจะมีความสวยงามมากในตอนกลางคืนทำให้เป็นจุดสนใจของผู้คนที่ได้เห็น

อย่างๆที่ใครหลายๆคนรู้กันว่า มีความเชื่อว่าถ้าคู่รักได้มาคล้องกุญแจกันที่นี่แล้วโยนลูกกุญแจทิ้งไปจะทำให้ความรักนั้นไม่มีวันพลัดพรากจากกัน(ส่วนตัวคิดว่าไม่น่าจะเกี่ยว อิอิ :D) นอกจากไปคล้องกุญแจแล้วการได้ขึ้นไปชมวิวของกรุงโซลบนโซลทาวเวอร์คือภาพที่หาที่ไหนไม่ได้แล้วในกรุงโซล เราจะเป็นวิวทิวทัศน์บนความสูง 236.7 เมตรจากฐาน

การเดินทาง
1. รถไฟใต้ดินสายที่ 3 และ 4 ลงที่สถานี Chungmuro ออกทางออกที่ 2 และขึ้นรถประจำทางสาย 2 ลง N Seoul Tower (ตารางรถ 08:00 ถึง 24:00 น./ ออกทุกๆ 8 นาที/ ระยะเวลาการเดินทาง 15 นาที)
2. รถไฟใต้ดินสายที่ 6 ลงที่สถานี Itaewon ออกทางออกที่ 4 และขึ้นรถประจำทางสาย 3 ลง N Seoul Tower (ตารางรถ 08:00 ถึง 23:00 น./ ออกทุกๆ 10 นาที/ ระยะเวลาการเดินทาง 15 นาที)

ค่าเข้าชม
ผู้ใหญ่ 8,500 won
วัยรุ่นและคนชรา 6,000 won (อายุ 13-18ปี, คนชราอายุ 65 ปีขึ้นไป)
เด็ก 4,000 won (อายุ 4-12ปี)



สวนสนุก Lotte World
คลองชองเกชอน
พระราชวังเคียงบก

วันอาทิตย์ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

เช่ารถขับที่เกาหลี

   

     การเช่ารถเพื่อขับเที่ยวเองในประเทศเกาหลีส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวจะนิยมเช่าเพื่อนขัวเที่ยวเกาะเชจู เพราะถนนที่ไม่ซับซ้อนมากเท่ากรุงโซล และการคมนาคมภายในเกาะเชจูเองก็ไม่สะดวกสาบายเหมือนอยู่ที่กรุงโซล ทำให้การท่องเที่ยวแต่ละที่บนเกาะเชจูนั้นไม่สะดวกเท่าที่ควร นักท่องเที่ยวจึงนิยมเช่ารถเพื่อขับเที่ยวเองบนเกาะเชจู

หากคุณต้องการเช่ารถจะมีศูนย์บริการเช่ารถของเกาลีที่ใหญ่ที่สุดอยู่ 2 บริษัทคือ บริษัท AJ Rent a Car และ บริษัท  KT Kumho Rent a Car มีหลายสิบสาขาทั่วประเทศเกาหลี ส่วนใหญ่จะเป็นที่สนามบิน และที่สนามบินนานาชาติอินชอนก็มีให้เช่าอย่างแน่นอน

บริษัทข้อกำหนดในการเช่ารถ
• ชำระค่าบริการด้วยบัตรเครดิต และ บริษัท AJ Rent a Car
• มีอายุเกิน 21 ปีบริบูรณ์
• มีหนังสือเดินทางสมบูรณ์ตามกฎหมาย
• มีประสบการณ์การขับขี่มากกว่า 1 ปี

วิธีเดินทางจากสนามบินอินชอนเข้ากรุงโซล
นิสัยคนเกาหลี
การเดินทางไปเกาหลี


วันพฤหัสบดีที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

วิธีเดินทางจากสนามบินอินชอนเข้ากรุงโซล

     การเดินทางจากสนามบินอินชอนเข้ากรุงโซลมีหลายวิธี ซึ่งเป็นข้อมูลพื้นฐานที่ใครจะไปเที่ยวเกาหลีก็จะต้องรู้ไว้ ไม่เช่นนั้นแล้วเมื่อคุณไปถึงเกาหลีแบบไม่มีข้อมูลหรือไม่รู้อะไรซะเลยคุณก็ไม่ต่างอะไรจากบ้านนอกเข้ากรุง ต่างกันที่กรุงของเกาหลีนั้นต้องแตกต่างจากกรุงเทพบ้านเราอย่างแน่นอน เกริ่นมาเยอะแล้วไปเข้าเรื่องกันเลย การเดินทางจากสนามบินอินชอบเข้ากรุงโซลมี 3 วิธีคือ


วิธีที่ 1 Airport Railroad Express
การเดินทางด้วยรถไฟสายด่วน Incheon Airport Railroad Express เป็นหนึ่งในเส้นทางที่สะดวกสบายและรวดเร็วที่สุดในการเดินทางจากสนามบินอินชอนไปยังกรุงโซล รถไฟใต้ดินสายนี้จะเชื่อมกับสายที่อยู่ใจกลางกรุงโซล หลังจากที่ออกจากสนามบินแล้วเดินทางมาถึง Seoul Subway ก็ให้คุณเปลี่ยนสายเพื่อไปยังจุดหมายปลายทางของคุณที่อยู่ในกรุงโซล หากใครไม่รู้วิธีขึ้นรถไฟใต้ดินก็ตามลิ้งนี้ไปได้เลย วิธีขึ้นรถไฟใต้ดินในเกาหลี



วิธีที่ 2 Airport Bus
การเดินทางด้วยรถบัสแบบเที่ยวเเดียวจากสนามบินอินชอนถึงกรุงโซล เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่มีกระเป๋าพะลุงพะลัง เพราะบนรถบัสจะมีที่เก็บกระเป๋าทำให้คุณไม่ต้องถือไว้ตลอด เพราะกว่าจะถึงกรุงโซลก็ต้องใช้เวลาเดินทางประมาณ 60-70 นาทีหากคุณเดินทางด้วยรถบัส
วิธีขึ้นรถบัสที่สนามบินคือให้คุณเดินไปที่เคาน์เตอร์ที่เขียนว่า Bus Ticket แล้วก็บอกกับพนักงานขายว่าต้องการจะลงที่ป้ายไหน แต่ถ้าคุณไม่รู้ว่าต้องลงที่ป้ายไหนก็ให้บอกชื่อโรงแรมไปแทน พนักงานขายก็จะแนะนำว่าควรลงที่ป้ายนั้นป้ายนี้เป็นต้น


วิธีที่ 3 Taxi
เป็นการเดินทางที่สบายที่สุด ส่งตรงถึงหน้าโรงแรม มีคนแบกกระเป๋าให้(คนขับแท็กซี่นั่นแหละ) หลักจากที่ได้กระเป๋าคุณก็สามารถเรียกแท็กซี่ไปเอากระเป๋าขึ้นรถและออกเดินทางได้ทันที เรียกได้ว่าเป็นส่วนตัวสุดๆ แต่ค่าแท็กซี่ก็แพงใช่เล่น โดยรวมๆแล้วค่าแท็กซี่จะอยู่ที่ประมาณ 100,000 วอน 3,000 บาทไทย


ถ้าถึงเกาหลีแล้วไม่รู้ว่าจะเที่ยวเกาหลีได้ยังไงเพราะไม่รู้วิธีการเดินทางในเกาหลีก็ตามลิ้งนี้ไปเลยจ้า การเดินทางในเกาหลี

วันอาทิตย์ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2559

เทศกลาตกปลาน้ำแข็งของเมืองฮวาชอนในปี 2016

     เทศกาลตกปลาน้ำแข็งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศเกาหลีก็คือเทศกาลตกปลาน้ำแข็งในเมือง ฮวาชอน และในปี 2016 นี้ก็มีการจัดงานตกปลาที่เมืองฮวาชอนตั้งแต่วันที่ 9-31 มกราคม 2016 นี้ ซึ่งถือเป็นโอกาสที่ดีที่ใครจะไปเที่ยวเกาหลีช่วงนี้เพราะจะได้สัมผัสกับอากาศที่หนาวเย็นแบบที่บ้านเราไม่มีและได้มีเทศกาลให้คุณได้เที่ยวกันอย่างสนุก เพราะเทศกาลตกปลานี้เป็นเทศกาลที่มีชาวเกาหลีมาร่วมงานในแต่ละปีกว่า 7 แสนคนต่อปีเลยทีเดียว




     เมื่อถึงฤดูหนาวแม่น้ำฮวาชอนก็จะกลายเป็นน้ำแข็งที่คุณสามารถเดินบนน้ำแข็งนั้นได้เลย ซึ่งถ้าคุณจะไปตกปลาที่นั่นก็ถือว่าเป็นกิจกรมที่น่าสนใจ เพราะคุณจะได้พบปะกับครอบครัวชาวเกาหลี นักท่องเที่ยวต่างชาติที่ไปเที่ยวเกาหลีอีกเป็นจำนวนมาก ส่วนการตกปลาก็ไม่ยาก เพียงแค่คุณเข้างานหาซื้อเบ็ดซักอัน แล้วก็หาทำเลขุดน้ำแข็งแล้วก็หย่อนเบ็ดลงไปรอปลามากินเท่านั้นเอง หากคุณคิดจะเดินทางเพื่อไปเทศกาลตกปลาที่เมืองฮวาชอนในปี 2016 นี้ก็เหลือเวลาไม่มากแล้ว เพราะวันที่ 31 มกราคมนี้ก็จะหมดเทศกลาตกปลาแล้ว วางแผนการเดินทางกันดีๆนะครับ